สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย Loading

เป็นไกด์ เป็นหัวหน้าทัวร์ต้องแจ้งให้นักท่องเที่ยว ดูแลทรัพย์สินให้ดี

0 0
Read Time:2 Minute, 45 Second

   ฿฿฿.  เป็นไกด์ เป็น หัวหน้าทัวร์ ต้องรู้ ต้องพร่ำพูด เสมอ สิ่งของมีค่าของนักท่องเที่ยวต้องให้ นำติดตัวไว้เสมอ  ถ้าเกิด สูญหาย เรื่องก็จะยุ่งอย่างนี้.  $$$$

 

 

20 มกราคม 2563 ร่วมประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณวินิจฉัยเรื่องร้องเรียนและอุทธรณ์ ครั้งที่ 1/2563 ที่กรมการท่องเที่ยว และ 23 มกราคม 2563 ร่วมประชุมคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ครั้งที่ 1/2563 ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 

      มีมติของที่ประชุมที่ควรจะเป็นกรณีศึกษาเพื่อประโยชน์ต่อบริษัทธุรกิจนำเที่ยว มัคคุเทศก์ ผู้นำเที่ยว และ นักท่องเที่ยวชาวไทย กล่าวคือ มีคดีร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวเรียกค่าเสียหายจากบริษัททัวร์แห่งหนึ่งที่นำไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศในยุโรป ซึ่งประเด็นสำคัญที่นำมาสู่่การร้องเรียนหรือฟ้องร้องก็คือ เงินที่เก็บไว้ในกระเป๋าเป้หรือกระเป๋าถือที่วางไว้บนที่นั่งในรถโค้ชหรือรถบัสนำเที่ยวหายไปในระหว่างที่ลงจากรถไปท่องเที่ยวโดยไม่นำติดตัวไปด้วย โดยกล่าวหาว่าคนขับรถเป็นผู้ลักขโมยเงินไป และทางบริษัทต้องรับผิดชอบ 

 

       ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวดังกล่าวได้นำเรื่องมาร้องเรียนต่อนายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์กลาง รวมทั้ง ยื่นฟ้องศาลแพ่งเรียกค่าเสียหาย ซึ่งผลจากคำพิพากษาของศาลได้พิจารณายกฟ้อง และนายทะเบียนที่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 ก็ได้ผลสรุปเป็นมติเช่นเดียวกันต่อกรณีนี้ ทั้งนี้ 

       จากเนื้อหาในคำพิพากษาของศาลที่สำคัญคือ …..”่โจทก์ (นักท่องเที่ยว) ฟ้องให้จำเลย (บริษัททัวร์) รับผิดในเงินดังกล่าวโดยอ้างฐานละเมิด ดังนี้ การที่จำเลยจะต้องรับผิด ต้องได้ความว่าจำเลยจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำต่อโจทก์โดยผิดกฎหมาย แต่เมื่อได้ความว่าเอกสารหมาย จ.2 (ใบเตรียมตัวเดินทางยุโรป) มีข้อความเตือน 

 

กรุณาอย่าเก็บสิ่งของมีค่าไว้ในกระเป๋าเดินทางหรือกระเป๋าแฮนแบ๊ก เพราะหากสูญหายหรือถูกโจรกรรม บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบค่าเสียหายทุกกรณี” 

 

จริง ส่วนที่โจทก์เบิกความว่า (ชื่อผู้นำเที่ยว) พูดเตือนก่อนลงจากรถไปเที่ยวในทำนองว่า ให้ระวังมิจฉาชีพโจรกรรมกระเป๋า ทำให้โจทก์กลัวจึงแยกเก็บเงินบางส่วนไว้ในกระเป๋าเป้วางบนที่นั่งรถโดยสารนั้น ก็เป็นเรื่องที่โจทก์ตัดสินใจเก็บเงินไว้บนรถโดยสารเอง หาใช่ (ชื่อผู้นำเที่ยว) พูดบอกให้ทำ ส่วนเรื่องเงินหายนั้น แม้ว่าคนขับรถจะเปิดประตูให้คนลงไปเที่ยวแล้วปิดประตูรถ ทำให้รถเหลือแต่คนขับก็ตาม แต่นอกจากกลุ่มของโจทก์แล้ว 

ยังมีนักท่องเที่ยวอื่นอีกหลายคน ทั้้งตามปกติของการเที่ยว นักท่องเที่ยวคนใดกลับมาถึงรถก่อน คนขับย่อมเปิดประตุให้ขึ้นมานั่งรอคนอื่นในรถ ดังนี้ ลำพังข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบมาจึงยังไม่อาจรับฟังได้ว่า คนขับรถเป็นผู้ลักเงินของโจทก์ไป…..

ครับ เรื่่องกรณีแบบนี้ได้เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น จึงนำมาฝากไว้เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้พึงทราบและระมัดระวังไว้ครับ

 

นายวิโรจน์ สิตประเสริฐนันทน์

นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย

 

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %
saichon
saichon677@gmail.com
Previous post มั่นใจทุกด่านปลอดภัย! “บิ๊กอู๊ด” ตรวจเข้มสแกน นทท. ไร้โคโรนา
Next post หยุดการแพร่ระบาด! กรมเจ้าท่า วางมาตรการป้องกันเชื้อไวรัส “โคโรนา” ด้านการขนส่งทางน้ำ