
จากเหตุการณ์ที่มัคคุเทศก์จำนวนมากได้รับความเดือดร้อนจากการนำทัวร์นักท่องเที่ยว ด้วยการถูกผู้ประกอบการทัวร์ให้สำรองจ่ายเงินไปก่อนนั้น ล่าสุดกองทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ได้ออกประกาศผ่านไปยังสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยวให้ประชาสัมพันธ์ถึงกฎหมายดังกล่าว หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 5 แสนบาท และถูกพักใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ไม่เกินครั้งละ 6 เดือน
หนังสือฉบับนี้ เป็นหนังสือที่ออกเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563 โดยกรมการท่องเที่ยว เพื่อขอให้สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ ATTA ได้ประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว โดยมีเนื้อหาว่า ด้วยพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมีเจตนารมณ์ที่จะควบคุมมาตรฐาน และคุณภาพในการให้บริการของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว เพิ่มขีดความสามารถของการแข่งขันในระดับสากล สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ดังนั้น ตามมาตรา32 จึงกำหนดห้ามไม่ให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวมอบหมายให้มัคคุเทศก์ ผู้นำเที่ยว หรือบุคคลอื่นใด นำนักท่องเที่ยวในความรับผิดชอบของตนไปท่องเที่ยว โดยเรียกเก็บเงินจากมัคคุเทศก์ ผู้นำเที่ยว หรือบุคคลอื่นนั้น หรือโดยให้บุคคลตังกล่าวรับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหาร หรือค่าอำนวยความสะดวกอื่นใดของนักท่องเที่ยว ไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน และหากผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติในมาตรา32 จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ไม่เกินครั้งละ 6 เดือน ตามมาตรา84 และมาตรา45 แห่งพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย กรมการท่องเที่ยวจึงใคร่ขอความร่วมมือมายังท่าน เพื่อโปรดประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวให้ได้รับทราบ และเข้าใจถึงบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวข้างต้น รวมถึงกระทำการใดๆ อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายบทบัญญัติด้วย