
ตะลุย 5 ค่ายทหารเมืองเหนือสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก นำสื่อมวลชน สมาคม ผู้ประกอบการท่องเที่ยว เดินทางเยียมชมค่ายทหาร ตามโครงการ “Army land เปิดค่ายทหารต้อนรับนักท่องเที่ยว” พร้อมให้ความรู้ประวัติศาสตร์ และสไตล์แบบทหาร
พลตรี สุธี กอรี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก ได้จัดโครงการสัมมนาสื่อมวลชนสัญจร ครั้งที่1/64 ระหว่างวันที่ 9-12 มีนาคม 2564 เพื่อประชาสัมพันธ์ดินแดนท่องเที่ยวในเขตทหารของกองทัพบก ตามโครงการ “Army land เปิดค่ายทหารต้อนรับนักท่องเที่ยว” ภายใต้แนวคิด “สนุกสนาน ท้าทาย คุ้มค่า และปลอดภัย” โดยมีผู้แทนจากสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ,สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ ,สื่อมวลชนด้านการท่องเที่ยว ท่องเที่ยวเขตทหาร ทร. ท่องเที่ยวเขตทหาร ทอ ,สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์กรมหาชน)สภา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกว่า 40 ชีวิต ร่วมเดินทางสู่ค่ายทหารพื้นที่ภาคเหนือด้านตะวันออก 5 จังหวัดโดยเริ่มออกเดินทางจากสโมสรทหารบกตั้งแต่เช้าตรู่ ของวันที่ 9 มีนาคม 2564 โดยรถทัวร์ของ กรมการขนส่งทหารบกเพื่อมุ่งหน้าสู่มณฑลทหารบกที่ 39 (ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช) จังหวัดพิษณุโลก เพื่อสักการะอนุสาวรีย์ 3 พี่น้อง พระผู้เสียสละเพื่อมาตุภูมิ ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์พระบรมรูปของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และพระสุพรรณกัลยา โดยมี พลตรี นพดล รอดกลาง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 39 ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งรับประทานอาหารกลางวันภายในค่ายทหาร ซึ่งสำหรับสมาชิกร่วมเดินทางหลาย ๆ ท่านถือเป็นการรับประทานอาหารในค่ายทหารเป็นครั้งแรก สร้างความประทับใจในรสชาติ ที่เอร็ดอร่อย ไม่แพ้ร้านอาหารมืออาชีพ
หลังจากนั้นทางคณะเดิดทางได้มอบของที่ระลึกให้แก่กันเพื่อเป็นการขอบคุณถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึกแล้วเดินทางต่อแล้วออกเดินทางต่อยังโรงแรมเชียงคำ แกรนด์วิลล่า จังหวัดพะเยา เพื่อพักค้างแรม และเตรียมตัวที่จะลุยกับภาระกิจต่อไปในวันรุ่งขึ้น
วันที่ 10 มีนาคม 2564 ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการเดินทาง ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก ได้นำคณะได้เยี่ยมชมความงามของทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ที่ภูลังกา เป็นจุด เช็คอิน สำคัญของจังหวัดพะเยา มีทัศนียภาพที่สวยสดงดงามโดยทาง ผอ.ทท ทบ ได้ จัดเตียมอาหารเช้าเช่น ขนมพื้นเมืองน่าน หมูปิ้ง น้ำเต้าหู้ ให้สมาชิก ใด้ทานบนจุดชมวิว ภูลังกา และเดินทางกลับมายังโรงแรมเชียงคำ แกรนด์วิลล่า เพื่อเก็บสัมภาระออกเดินทางไปยัง มณฑลทหารบกที่ 34 ค่ายขุนเจืองธรรมมิกราช แต่ นระหว่างทาง.ได้แวะชมสวนมัลเบอร์รี่ ลูกหม่อน ที่นัมเบอร์ เลอ กองแล ซึ่งเป็นสถานที่ทางเที่ยวเชิงเกษตรอีกแห่งหนึ่ง จังหวัดพะเยา พร้อมทั้งให้สมาชิกได้ชิมรสชาดผลมัลเบอร์รี่สดๆ ที่เด็ดได้จากต้น และ นำมาแปรรูปในรูปเป็นอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ อีกด้วย
เมื่อเดินทางมณฑลทหารบกที่ 34 ค่ายขุนเจืองธรรมิกราช
พลตรี สมชาย ทาวงศ์มา ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 34 ให้การต้อน ซึ่งทางคณะก็ได้ร่วมพิธีสักการะพ่อขุนเจืองธรรมิกราช ที่ประดิษฐานภายในค่ายแห่งนี้ และเป็นที่มาของชื่อค่ายทหารแห่งนี้เพื่อเป็นการเทิดทูนวีรกรรมการรบเพื่อรักษาบ้านเมืองและสร้างเมืองพะเยาขึ้นมา ทางคณะฯได้รับประทานอาหารกลางวัน รค่ายทหารแห่งนี้ ด้วยเมนูอาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือ หลังจาก นั้นทางผู้บัญชาการค่าย ได้นำคณะ ฯ เดินทาง เข้าเยี่ยมชม สนามกอล์ฟ ซึ่งถือว่าเป็นสนามกอล์ฟแห่งเดียวในจังหวัดพะเยา จากนั้นได้พาเยี่ยมชมผลผลิตทางการเกษตร ตามโครงการ “ทหารพันธุ์ดี” ที่เพรียกพร้อมไปด้วย ผักบุ้งดิน ผักชี และบวบเหลี่ยม พร้อมทั้งนำคณะเข้าเยี่ยมชมการเลี้ยงเป็ดไข่ และไก่ไข่ โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่9 เมื่อถึงเวลาพอสมควร ทางคณะฯเดินทาง จึงอำลาโดยเดินทางต่อไป วัดศรีศรีโคมคำ พเพื่อกราบพระเจ้าตนหลวง ซึ่งเป็นวัดคู่เมืองพะเยา และเดินทางไปยังกว๊านพะเยา สักการะพ่อขุนงำเมือง. สำหรับกว๊านพะเยานั้นเป็นทะเลสาบน้ำจืดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ คำว่า “กว๊าน” ตามภาษาพื้นเมืองหมายถึง “บึง” นั้น เอง จากนั้น ให้เวลาคณะได้หามุมถ่ายภาพบรรยากาศที่กว๊านพะเยาแห่งนี้ และเดินทางเข้าที่พัก โรงแรมเกทเวย์ จังหวัดพะเยา เพื่อพักค้างแรม สำหรับคืนที่สอง ของการเดินทาง
11 มี.ค.64 เป็นวันที่ 3 ของการเดินทาง พลตรี สุธี กอรี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก ได้นำคณะฯ ไปเยี่ยมชม มณฑนทหารบกที่ 38 ค่ายสุริยะพงษ์ เมื่อเดินทางถึง พลตรี รุศมนตรี จิณเสน ผู้บัญชาการมณฑนทหารบกที่ 38 ค่าย สุริยะพงษ์ นำคณะไปสักการะอนุสาวรีย์พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช มหาอำมาตย์เอก พระเจ้าสุริยะพงษ์ผริตเดชพระนามเดิม เจ้าสุริย ณ น่าน เป็นเจ้าผู้ครองนครเมืองน่าน องค์ที่ 63 และเป็นองค์ที่ 13 แห่งราชวงศ์ ติ๋นมหาวงศ์ ซึ่งชาวเมืองน่านจะเรียก ว่า พระเจ้าน่าน. และได้นำคณะขึ้นรถรางเพื่อเยี่ยมชมโครงการ “ทหารพันธุ์ดี” โดยมี น้ำมัลเบอร์รี่เย็นฉ่ำเป็น Welcome Drink ต่อจากนั้นเข้าเยี่ยมชม โครงการหลวงที่ช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ให้มีกินมีใช้ อีกทั้งยังเป็นศูนย์การเรียนรู้ทางการเกษตร โดยมีประชาชนจากทั่วประเทศเดินทางมาดูงานตลอดทั้งปี ซึ่งภายในค่ายแห่งนี้มีการเลี้ยงกบ ปลูกผักปลอดสารพิษ และเลี้ยงเด็ก พันธุ์บางปะกง นอกจากนี้ ยังมีการวิจัยและพัฒนาผลผลิต รวมถึงมีการแจกเมล็ดพันธุ์พืชให้ประชาชน โดยเมล็ดพันธุ์ส่วนหนึ่งจะส่งไปยังค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ เพื่อกระจายต่อไปยังทั่วประเทศ
สำหรับอาหารกลางในค่ายทหารมื้อนี้จะเป็นมื้อพิเศษ เป็นแบบขันโตกล้านนา สร้างความประทับใจให้กับคณะสื่อมวลชนสัญจรในครั้งนี้เป็นอย่างมาก นากจากนี้ค่ายสุริยพงษ์ยังมีผลิตภัณฑ์ สินค้าโอท็อปเมืองน่านไว้จัดจำหน่ายให้กับผู้ที่สนใจอีกด้วย หลังจากนั้นทาง
สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก ยังได้นำคณะสื่อมวลชนสัญจรไปไหว้พระขอพรที่วัดภูมินทร์ ซึ่งเป็นวัดสำคัญของจังหวัดน่าน มีพระอุโบสถเป็นแบบจตุรมุข และมีภาพวาดฝาผนังโบส เป็นรูป ชายหญิงกระซิบกระซาบกัน นักท่องเที่ยวให้ชื่อภาพว่า ปู่ม่าน ย่าม่าน กระซิบรักเมืองน่าน
และทางคณฯเดินทางต่อไปยังกองพันทหารม้าที่12 กองพลทหารม้าที่1 (ค่ายพระยาไชยบูรณ์) จังหวัดแพร่ เพื่อเยี่ยมชม Army land ค่ายพระยาไชยบูรณ์ โดยมี พันเอก จักรชัย สำเภา ผู้บัญชาการกองพันทหารม้าที่12 กองพลทหารม้าที่1 และเดินทางเข้าพัก ที่โรงแรม Taris Art Hotel แพร่
12 มี.ค.64 พลตรี สุธี กอรี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก ได้นำคณะสื่อมวลชนสัญจรออกเดินทางไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ที่วัดช่อแฮ จังหวัดแพร่ ร่วมกันถวายสังฆทาน และถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน
แล้วจึงเดินทางมายังมณฑลทหารบกที่ 35 (ค่ายพระยาพิชัยดาบหัก) จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมี พลตรี ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 35 ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งจัดเตรียมอาหารมื้อกลางวันด้วยอาหารขึ้นชื่อของเมืองลับแล เช่นข้าวพันผัก หมี่พันผัก ขนมจีนน้ำยาปลาตะโกก ทอดมัน และขนมถ้วย
จากนั้นสักการะอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ชมการแสดงมวยท่าเสาที่นักแสดงล้านเป็นน้อง ๆทหารภายในค่าย
และต่อด้วยการเยี่ยมชมโรงพยาบาลค่ายพระยาพิชัยดาบหักโดยมี ไฮไลท์ คือโครงการ าชาบำบัด คือการนำม้ามารักษาผู้ป่วยออทิสซึม เป็นการรักษาด้วยวิธีนี้มีผลการวิจัยยืนยันว่า การเดินของม้าเป็นการเคลื่อนไหวที่กระตุ้นการเดินมนุษย์มากที่สุด จึงทำให้ผู้เข้ารับการบำบัดอาการดีขึ้น นอกจากการรักษาที่ได้ผลดีแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของกองทัพบกอีกด้วย
ต่อจากนั้นนำคณะสื่อมวลชนสัญจรเดินทางเยี่ยมชมพื้นที่รอบค่าย พร้อมทั้งพาแวะเยี่ยมชิมร้านกาแฟ 35 Café ซึ่งตกแต่งร้านแบบคาวบอย ตามอัตลักษณ์ของทหารม้า ทานของว่าดื่มกาแฟ Afternoon Coffee โดยมีนันดนตรีทหาร บรรเลงและร้องเพลงคาวบอย. ผู้อำนวยการส่งเสริมการท่องเที่ยวทหารบกมองของที่ระลึกให้กับผู้บัญชาการค่ายเพื่อเป็นการของคุณที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ก่อนที่คณะสื่อมวลชนสัญจรจะเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
ทางสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทยต้องขอขอบคุณ สำนักนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก ที่เปิดโลกทัศน์ใหม่ในการท่องเที่ยวโดยเปิดค่ายทหารให้ประชาชนสามารถเข้าไปท่องเที่ยว เปลี่ยนจากเขตทหารห้ามเข้า เป็น เขตทหารยินดีต้อนรับ