
5 องค์กรรัฐผนึกกำลัง ดึงลิขสิทธิ์ “สปาร์ตัน เรซ” ศึกวิ่งเทรลวิบากอันดับ1 ของโลกมาจัดแข่งขันที่ประเทศไทยเป็นเวลา 3 ปี โดย “กองทัพบก” พร้อมเปิดค่ายทหาร ประเดิมสนามแรก ที่ห้วยตึงเฒ่า จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 12-14 มิถุนายนนี้
กองทัพบก ผนึกกำลังร่วมกับการกีฬาแห่งประเทศไทย ,การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ,สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ,สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. และบริษัท มูฟ เอเชีย จำกัด จัดงานแถลงข่าวคว้าลิขสิทธิ์จัดการแข่งขัน ศึกวิ่งเทรลวิบากที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก รายการ “สปาร์ตัน เรซ” ที่ประเทศไทย เป็นเวลา 3 ปี (2563-2565) เมื่อช่วงบ่ายวันนี้(12 ก.พ. 63) โดยมี พลตรี ธนณัฐ ยังเฟื่องมนต์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก กล่าวรายงาน ซึ่งในปีแรก “สปาร์ตัน เรซ ไทยแลนด์ 2020” จะมีการชิงชัยทั้งหมด 3 สนาม ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 12-14 มิถุนายน 2563 ,จังหวัดกระบี่ วันที่ 11-13 กันยายน 2563 และจังหวัดสงขลา วันที่ 6-8 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งคาดว่าจะมีนักแข่งจากทั่วโลกเดินทางมาชิงชัยกว่า 15,000 คน
โดยพลเอก ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ เสนาธิการทหารบก กล่าวว่า กองทัพบก ได้จัดทำโครงการ ARMYLAND พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในเขตพื้นที่ทหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ธรรมชาติ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ให้เกิดประโยชน์จากกิจกรรม ทั้งด้านการกีฬา การผจญภัย การเรียนรู้ การศึกษา และการฝึกทักษะ จึงเล็งเห็นว่าการแข่งขัน “สปาร์ตัน เรซ” นั้นตรงกับเป้าหมายของเรา เพราะจะเป็นการเปิดค่ายทหารรองรับการจัดการแข่งขันวิ่งเทรล วิบากอันดับ 1 ของโลก ให้คนไทย และชาวต่างชาติที่เดินทางมาแข่งขันได้สัมผัสถึงความสวยงามทางธรรมชาติของประเทศไทย พร้อมช่วยสนับสนุนในด้านการจัดเตรียมความพร้อมของพื้นที่จัดงาน เส้นทางการแข่งขัน เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล การรักษาความปลอดภัย ตลอดจนอำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ
ด้าน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สปาร์ตัน เรซ ถือเป็นกีฬาใหม่สำหรับคนไทย แต่เป็นกีฬาที่ทั่วโลกให้ความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้ถูกบรรจุเป็น 1 ในกีฬาสาธิต ในมหกรรมโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส พร้อมมีโอกาสที่จะถูกยกระดับเป็นกีฬาหลักในอนาคต กกท. จึงเล็งเห็นถึงโอกาสที่จะวางรากฐานกีฬาชนิดนี้ให้กับประเทศไทย จึงได้ร่วมสนับสนุนการจัดการแข่งขัน เพื่อมุ่งหวังที่จะให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางกีฬาชนิดนี้ของภูมิภาคอาเซียน รวมถึงยกระดับการแข่งขันสู่สนามเอเชีย แปซิฟิก แชมเปี้ยนชิพ ในอนาคต สิ่งเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศ และเพิ่มศักยภาพในการเป็นพื้นที่รองรับการจัดกิจกรรมกีฬาระดับโลกได้อีกทาง
ขณะที่ นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) ในฐานะผู้ประมูลลิขสิทธิ์จัดการแข่งขัน กล่าวว่า สปาร์ตัน เรซ นับเป็นการแข่งขันกีฬารูปแบบใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม มีการจัดแข่งขันไปแล้วกว่า 594 ครั้ง ใน 40 ประเทศทั่วโลก และมีผู้เข้าร่วมแข่งขันจากทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน โดยผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด พร้อมที่จะจ่ายเงินเข้าแข่งขัน เพื่อเก็บคะแนนสะสม และไล่ล่าเงินรางวัล เราจึงช่วยสนับสนุนงบประมาณพร้อมผนึกกำลังบูรณาการร่วมกับภาครัฐบาล ซื้อลิขสิทธิ์ดึงการแข่งขันมาจัดที่ประเทศไทย เป็นเวลา 3 ปี ซึ่งจะได้ทั้งฐานข้อมูล รวมถึงองค์ความรู้ในการจัดการแข่งขันระดับโลก และคาดว่าในปีแรกจะมีผู้เข้าแข่งขันทั้ง 3 สนาม ประมาณ 15,000 คน โดยเป็นนักแข่งจากต่างชาติ 30-40%
ส่วนทางด้านนายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เรามั่นใจว่าการแข่งขัน “สปาร์ตัน เรซ” จะเป็นการช่วยโปรโมตประเทศไทย และสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท เพราะผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด พร้อมที่จะใช้จ่ายเงิน เพื่อเดินทางมาแข่งขัน และหาความท้าทายกับสนามแข่งขันใหม่ๆ ซึ่งสถานที่จัดการแข่งขันทั้ง 3 จังหวัดในประเทศไทย นับเป็นสนามที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง และมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงามระดับโลก ทำให้หลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน ผู้เข้าแข่งขัน ตลอดจนครอบครัว และผู้ติดตาม สามารถเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย พร้อมจับจ่ายใช้สอย ซื้อสินค้า และบริการต่างๆ ต่อได้
นอกจากนี้ ทางพลตำรวจตรี สุรพงษ์ อาริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า การแข่งขันวิ่งเทรลถือเป็น 1 ในประเภทการวิ่งครอสคันทรี ซึ่งทางสมาคมกีฬากรีฑาฯ ได้ดูแล และสนับสนุนอยู่ รวมถึงมีโอกาสที่จะถูกบรรจุให้เป็นกีฬาสากลที่มีการแข่งขันในทัวร์นาเมนท์อย่างเป็นทางการต่างๆ เราจึงได้ร่วมสนับสนุนการแข่งขัน “สปาร์ตัน เรซ” เพื่อนำองค์ความรู้มาพัฒนาผู้ที่สนใจ และช่วยผลักดันให้เกิดนักกีฬาทีมชาติในอนาคต เพราะหลายคนที่เล่นกีฬาชนิดนี้ ส่วนใหญ่จะพัฒนามาจากนักวิ่ง และนักไตรกีฬา แต่นอกจากพละกำลัง และเทคนิคด้านร่างกายแล้ว ยังต้องพัฒนาในด้านกลยุทธ์ และการวางแผน สำหรับผ่านอุปสรรคในแต่ละฐาน เพื่อเข้าเส้นชัยให้เร็วที่สุดด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ทางนายบุญเพิ่ม อินทนปสาธน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูฟ เอเชีย จำกัด ในฐานะผู้ได้รับสิทธิ์ในการจัดการแข่งขันในประเทศไทย กล่าวว่า การจัดการแข่งขัน “สปาร์ตัน เรซ” ที่ประเทศไทย จะนำมาตรฐานการจัดการแข่งขันระดับโลกมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ อุปกรณ์เครื่องกีดขวางทุกชิ้นได้รับมาตรฐานการรับรองจากสหรัฐอเมริกา โดยมีทีมงานจากสหรัฐอเมริกามาดูและเรื่องการสร้างสนามให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ซึ่งความพิเศษของ “สปาร์ตัน เรซ ไทยแลนด์ 2020” ในสนามแรก ที่ห้วยตึงเฒ่า จ.เชียงใหม่ ยังเป็นการแข่งขันในระดับเซาธ์อีสท์ เอเชีย ซีรีส์ มีการแข่งขันทั้งสิ้น 3 ประเภท คือ สปาร์ตัน ซูเปอร์ (10 กม.) ,สปาร์ตัน สปรินท์ (5 กม.) และสปาร์ตัน คิดส์ (3.2 กม.) เพื่อเปิดให้นักแข่งจากทั่วโลก ได้เดินทางมาไล่ล่าเหรียญรางวัล เพื่อสะสมเป็นสมาชิก “สปาร์ตัน ไตรเฟคตา” ด้วยเช่นกัน