ภาครัฐ และเอกชนด้านการท่องเที่ยว ร่วมประชุมหาข้อแก้ไข และรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในผลกระทบไวรัสโคโรนา ด้านนายกสมาคมมัคคุเทศก์ เตรียมบูรณาการภาครัฐ มองหาอาชีพเสริม และเร่งเยียวยาให้มัคคุเทศก์ที่ว่างงานกว่าหมื่นคน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กล่าวเปิดงานภายในการประชุมเชิงปฏิบัติการภาครัฐ และเอกชน เพื่อแก้ไข และรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวยั่งยืน ว่า ขณะนี้ได้ระดมความคิดเห็น ข้อเสนอ และแนวทางการบริหารจัดการอย่างเป็นรูปธรรมในการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่สำคัญคือการกำหนดมาตรการ เพื่อรองรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่2019 ซึ่งมีทั้งนักวิชาการอิสระ ,ธนาคารแห่งประเทศไทย และศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งทางคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบชุดมาตรการเพื่อรองรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่2019 ระยะสั้น และระยะยาวที่เสนอโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแล้ว ได้แก่ มาตรการด้านภาษี โดยการขยายเวลาการยื่นแบบรายการชำระภาษี ปี2562 ออกไปอีก 3 เดือน จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2563 ,การสนับสนุนการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ และมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงกิจการโรงแรม ,มาตรการเสริมสร้างความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทาน กำหนดจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ห่วงโซ่อุปทาน ,การศึกษาและวางกรอบการขยายเวลาเปิด-ปิดสถานประกอบการเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยว หรือโซนนิ่ง รวมถึงการสนับสนุนเที่ยวบินเช่าเหมาลำชาร์เตอร์ไฟลท์สำหรับนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีการใช้จ่ายสูงสู่พื้นที่เมืองรอง
ซึ่งผลการประชุมเชิงปฏิบัติการของทั้ง 4 กลุ่มนี้ จะทำให้เห็นภาพมาตรการที่จะช่วยเหลือทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้อย่างชัดเจนขึ้น โดยมุ่งเน้นให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำไปกำหนดกลยุทธ์ และแผนงานที่ทันต่อเหตุการณ์ และสามารถฃรองรับสถานการณ์เฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งภาคเอกชนสามารถนำแนวทางตามมาตรการไปใช้ในการปรับตัว และพัฒนาธุรกิจให้สอดคล้องต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงรอบด้าน และที่สำคัญคือ เป็นการเยียวยาพี่น้องผู้ประกอบการภาคเอกชน ซึ่งถือว่าเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ ซึ่งทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะนำมาตรการต่างๆ ที่ได้ในวันนี้นำเสนอรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง
ขณะที่ คุณวิโรจน์ สิตประเสริฐนันท์ นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้ (13 ก.พ. 63) ทางสมาคมฯ ก็ได้ส่งบุคลากรเข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ด้วย โดยมีการทำเวิร์คช้อป แบ่งกลุ่มเป็นจำนวน 4 กลุ่ม ตามที่ท่านรัฐมนตรีได้กล่าวไว้ข้างต้นนี้ ซึ่งในแต่ละกลุ่มก็ส่งผลกระทบกับมัคคุเทศก์ทั้งนั้น แต่ทางสมาคมฯ จะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มที่2-4 มากหน่อย เนื่องจากเป็นการยกระดับคุณภาพมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ตลอดจนการเยียวยาจากสภาวะวิกฤติในปัจจุบันและที่จะมีผลต่ออนาคต ซึ่งในกลุ่มต่างๆ เหล่านี้ น่าจะเป็นการช่วยเหลือมัคคุเทศก์ได้
นอกจากนี้ ทางนายกสมาคมมัคคุเทศก์ ยังระบุอีกว่า อยากให้หน่วยงานภาครัฐเร่งเยียวยามัคคุเทศก์โดยด่วน ตามมาตรการที่ตนเองได้ยื่นข้อเสนอมาตรการให้กับทางภาครัฐไว้ก่อนหน้านี้แล้ว รวมถึงการจัดอบรมให้มัคคุเทศก์ พร้อมทั้งจัดอบรมภาษาทางเลือก เพื่อให้มัคคุเทศก์ได้มีภาษาที่2 รองรับที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวหลังจากที่ผ่านวิกฤติในครั้งนี้ไป
ทั้งนี้ ทางสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย เตรียมที่จะร่วมกันหารือกับทางภาครัฐ เพื่อหาอาชีพเสริมให้กับทางมัคคุเทศก์ ในการใช้เป็นอาชีพทางเลือกในขณะที่ว่างงานอีกด้วย