กัดไม่ปล่อย! นายกมัคคุเทศก์ตามคดีไกด์เถื่อน-ซิตติ้งไกด์

0 0
Read Time:3 Minute, 5 Second

จากกรณีตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกับสมาพันธ์มัคคุเทศก์แห่งประเทศไทย กวดขันจับกุม มัคคุเทศก์ผิดกฎหมาย บริเวณหน้าพระบรมมหาราชวัง หรือวัดพระแก้ว เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2562 โดยจับกุมไกด์เถื่อนต่างชาติ พร้อมทั้งซิตติ้งไกด์ผิดกฎหมายได้ในบริเวณดังกล่าว ก่อนที่จะส่งตัวให้พนักงานสอบ สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม ดำเนินคดี จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา คุณวิโรจน์ สิตประเสริฐนันท์ นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ได้เดินทางเข้าพบ พันตำรวจเอก วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม เพื่อขอให้ดำเนินคดี กับไกด์เถื่อนต่างชาติ และซิตติ้งไกด์ผิดกฎหมายให้ถึงที่สุด เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดที่ทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศชาติอีกด้วย ล่าสุด ศาลสั่งปรับซิตติ้งไกด์ 5,000 บาท ส่วนไกด์เถื่อนยื่นประกันตัว 200,000 บาท

ในวันนี้ (10 ม.ค.63) ทางสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ได้ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามการดำเนินคดี ในกรณีนี้ จึงได้ประสานผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม และหัวหน้าพนักงานสอบสวน พร้อมชี้แจงรายละเอียดผลการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของสมาคมฯ ว่า ในการดำเนินคดีนี้ แบ่งออกเป็น 2 คดี โดยพนักงานสอบสวนทำสำนวนส่งให้อัยการฟ้องศาลในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 เพื่อดำเนินคดีกับซิตติ้งไกด์ หรือผู้ช่วยมัคคุเทศก์ ในข้อหา “เป็นมัคคุเทศก์ ยินยอมให้ผู้อื่นทำหน้าที่มัคคุเทศก์แทนตน” ตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ มาตรา60 โดยศาลแขวงดุสิต ได้พิจารณาคำฟ้องแล้วพิเคราะห์ว่า ผู้ถูกฟ้องกระทำความผิดจริงตามฟ้อง จึงได้พิพากษาลงโทษ ปรับเป็นเงิน จำนวน 5,000 บาท

ส่วน นายเถียน ซึ่งเป็นไกด์เถื่อนต่างชาติ นั้น เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหา “เป็นมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ มาตรา86 และในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวลักลอบประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามพระราชบัญญัติแรงงาน ว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าว โดยมีอัตราโทษสูง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งในขณะนี้ผู้ต้องหาได้ใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด จำนวน 200,000 บาท ในการประกันตัวในชั้นสอบสวน และในขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนอยู่ในระหว่างการสอบสวนขยายผล เพื่อติดตามตัวผู้ให้การช่วยเหลือ และสนับสนุนการกระทำผิดมาดำเนินคดี นอกจากนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้เชิญบริษัททัวร์ผู้ว่าจ้างมาสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมอีกด้วย

ทั้งนี้ ทางสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ได้รับการร้องเรียนจากสมาชิก และมัคคุเทศก์ทั่วไป ถึงการกระทำผิดเข้ามาแย่งงานแย่งอาชีพของคนต่างด้าว ซึ่งทางสมาคมฯ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ยื่นหนังสือร้องเรียนให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง แต่การบังคับใช้กฎหมายการท่องเที่ยวของหน่วยงานภาครัฐที่ไม่เข้มงวด ประกอบกับการให้ข้อมูลที่บิดเบือนของกลุ่มผู้ประกอบการนอมินี ทำให้ปัญหานี้ยังไม่ถูกแก้ไข จนกระทบอุสาหกรรมการท่องเที่ยวไปทั้งระบบ จึงทำให้สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย นิ่งเฉยไม่ได้ พร้อมทั้งจะติดตามผลการดำเนินคดีกับไกด์เถื่อนต่างชาติ และขบวนการอย่างถึงที่สุด

อย่างไรก็ตาม ทางผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม ระบุว่า สำหรับกฎหมายธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ตนเองยอมรับว่าตำรวจท้องที่อาจจะไม่มีความชำนาญ เนื่องจากเป็นกฎหมายเฉพาะหน่วย จึงได้ขอความร่วมมือกับทางสมาคมมัคุเทศก์ฯ ในการให้ข้อมูล และเบาะแสเกี่ยวกับไกด์เถื่อน ซึ่งตนเอง และตำรวจในสังกัดก็พร้อมให้ความร่วมมือกับการปราบปรามไกด์เถื่อนให้หมดไปจากประเทศต่อไป

Happy
Happy
0 %
Sad
Sad
0 %
Excited
Excited
0 %
Sleepy
Sleepy
0 %
Angry
Angry
0 %
Surprise
Surprise
0 %
admin
ponkanok.cbs@gmail.com
Previous post ประกาศ! กรมการท่องเที่ยวย้ายสถานที่ทำการ  
Next post แก้ปมไกด์ไม่พอ! เปิดคอร์สเรียนภาษาเกาหลี รุ่นที่6 เร่งผลิตไกด์ให้เพียงพอกับตลาด