
จากกรณีร่างประกาศคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ที่จะกำหนดให้กลุ่มนักท่องเที่ยวไม่เกิน 12 คน ไม่ต้องใช้มัคคุเทศก์ก็ได้ จนกลายเป็นประเด็นร้อนในสังคมมัคคุเทศก์นั้น ล่าสุด นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ได้เข้ายื่นหนังสือคัดค้านเรื่องดังกล่าวต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
คุณวิโรจน์ สิตประเสริฐนันท์ นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือคัดค้านร่างประกาศคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ที่จะกำหนดให้กลุ่มนักท่องเที่ยวไม่เกิน 12 คน ไม่ต้องใช้มัคคุเทศก์ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (2 มิ.ย.63) โดยร่างประกาศดังกล่าว ทางสมาคมฯ รวมถึงมัคคุเทศก์ส่วนใหญ่มองว่าจะส่งผลร้ายแรงต่ออาชีพมัคคุเทศก์เป็นอย่างมาก จึงทำให้ต้องยื่นหนังสือคัดค้าน เพื่อแสดงจุดยืนอย่างจริงจัง
โดยคุณวิโรจน์ กล่าวว่า ในการยื่นหนังสือครั้งนี้ สืบเนื่องจากทางสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทยได้รับหนังสือเวียนจากกรมการท่องเที่ยว เพื่อให้ร่วมแสดงความคิดเห็นถึงร่างประกาศคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ที่จะกำหนดให้กลุ่มนักท่องเที่ยวไม่เกิน 12 คน ไม่ต้องใช้มัคคุเทศก์ อีกทั้งได้รับทราบว่าทางคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์จะมีการประชุมในวันที่ 11 มิถุนายนนี้ ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของการยื่นหนังสือคัดค้านในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมมัคคุเทศก์ฯ จึงขอให้คณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์พิจารณาทบทวนร่างประกาศดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ ยังได้ขอความร่วมมือจากมัคคุเทศก์ทุกท่าน ทำเป็นหนังสือคัดค้านร่างประกาศนี้ โดยส่งจดหมายมาที่สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ตามที่อยู่ เลขที่414/11 ชั้น5 อาคารสำราญแมนชั่น ซ.ประชาราษฎร์บำเพ็ญ20 ถ.ประชาราษฎร์บำเพ็ญ แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310 เพื่อรวบรวมหนังสือคัดค้าน ก่อนที่จะส่งมอบให้ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อีกครั้ง
สำหรับร่างประกาศดังกล่าว ทางสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย เคยนำเสนอเรื่องนี้ไปแล้วเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2562 หลังจากได้รับทราบร่างประกาศธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ฉบับนี้มาแล้ว โดยคุณสมชาติ อังกาบสี เลขาธิการสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ได้เข้าร่วมการหารือในร่างฉบับนี้มาแล้วที่โรงแรมเอเชีย และที่โรงแรมทวินทาวเวอร์ ซึ่งทางกรมการท่องเที่ยวจัดขึ้น โดยผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่ต่างแสดงความคิดเห็นคัดค้านร่างฉบับนี้ เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการเอื้อผลประโยชน์ให้กับทางผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวที่จะอาศัยช่องว่างของประกาศฉบับนี้ในการที่จะไม่ใช้มัคคุเทศก์ และจะเป็นช่องทางให้คนต่างชาติมาลักลอบทำงานเป็นไกด์เถื่อน จึงทำให้มัคคุเทศก์ทุกคนรู้สึกกังวลหากร่างฉบับนี้ ได้ออกประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมาย