จากกรณีที่ตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกับสมาพันธ์มัคคุเทศก์แห่งประเทศไทย กวดขันจับกุมไกด์ต่างชาติพร้อมทั้งมัคคุเทศก์ไทยที่ทำงานเป็นผู้ช่วยหรืิอซิตติ้งไกด์ที่กระทำผิดกฎหมาย บริเวณหน้าพระบรมมหาราชวัง หรือวัดพระแก้ว และได้ส่งฟ้องศาล เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2562 โดยศาลได้สั่งปรับซิตติ้งไกด์ 5,000 บาท ล่าสุด นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ให้พิจารณาลงโทษผู้ช่วยมัคคุเทศก์รายนี้เพื่อมิให้กระทำผิดกฎหมายอีก และเป็นตัวอย่างของคดีตามกฎหมายให้บังคับใช้อย่างเป็นรูปธรรม
คุณวิโรจน์ สิตประเสริฐนันท์ นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าพบ นายทวีศักดิ์ วาณิชย์เจริญ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (24 ม.ค. 63) เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนให้พิจารณาลงโทษผู้ช่วยมัคคุเทศก์ผิดกฎหมาย หลังถูกตำรวจท่องเที่ยว จับกุมตัวได้ขณะที่นำนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมพระบรมมหาราชวัง หรือวัดพระแก้ว เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2562 ก่อนที่จะส่งตัวให้พนักงานสอบ สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม ส่งฟ้องศาลแขวงดุสิต เพื่อดำเนินคดีในข้อหา “เป็นมัคคุเทศก์ ยินยอมให้ผู้อื่นทำหน้าที่มัคคุเทศก์แทนตน” ตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ มาตรา60 โดยศาลได้พิจารณาคำฟ้องแล้วพิเคราะห์ว่า ผู้ถูกฟ้องกระทำความผิดจริงตามฟ้อง จึงได้พิพากษาลงโทษ ปรับเป็นเงิน จำนวน 5,000 บาท เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2562
โดยนายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ระบุว่า ในคดีนี้ทางสมาคมฯ ได้ติดตามผลการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานเป็นรูปธรรมตามกฎหมาย ซึ่งในวันนี้ (24 ม.ค. 63) ทางสมาคมฯ จึงได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ให้พิจารณาดำเนินการภาคทัณฑ์มัคคุเทศก์คนดังกล่าวมิให้ดำเนินการดังกล่าวอีก ซึ่งจะมีผลต่อการพิจารณาลงโทษในระดับขั้นต่อ ๆ ไป คือพักใช้ และเพิกถอนใบอนุญาตต่อไป นอกจากนี้ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่จะมิให้มัคคุเทศก์ไปสนับสนุนให้บุคคลต่างด้าวเข้ามาทำหน้าที่มัคคุเทศก์แย่งอาชีพคนไทย ซึ่งเป็นอาชีพที่สงวนไว้ให้คนไทยเท่านั้น อีกทั้งยังมีการกระทำความผิดในลักษณะที่ทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศชาติอีกด้วย
ทั้งนี้ ทางอธิบดีกรมการท่องเที่ยว ได้รับหนังสือไว้พิจารณา พร้อมทั้งจะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และจะดำเนินคดีกับขบวนการสนับสนุนไกด์เถื่อนต่างชาติอย่างถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย