
จากกรณีที่ตำรวจท่องเที่ยว ได้จับกุมผู้ช่วยมัคคุเทศก์ผิดกฎหมาย บริเวณหน้าพระบรมมหาราชวัง หรือวัดพระแก้ว เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2562 ก่อนที่จะส่งตัวให้พนักงานสอบ สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม ดำเนินคดี ล่าสุด โดยศาลสั่งปรับผู้ช่วยมัคคุเทศก์คนดังกล่าว 5,000 บาท ส่วนไกด์เถื่อนยื่นประกันตัว 200,000 บาท ล่าสุด นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย เตรียมยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมการท่องเที่ยวให้พิจารณาลงโทษผู้ช่วยมัคคุเทศก์รายนี้ให้ถึงที่สุด
คุณวิโรจน์ สิตประเสริฐนันท์ นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ได้ร่วมหารือกับคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ในการประชุมประจำเดือนมกราคม 2563 ณ ศูนย์อบรมมัคคุเทศก์ มหาวิทยาลัยปทุมธานี ชั้น3 อาคารเสริมทรัพย์ เขตดินแดง กรุงเทพฯ ถึงกรณีที่ตำรวจท่องเที่ยว ได้จับกุมตัวผู้ช่วยมัคคุเทศก์ผิดกฎหมาย บริเวณหน้าพระบรมมหาราชวัง หรือวัดพระแก้ว เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2562 ก่อนที่จะส่งตัวให้พนักงานสอบ สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม ส่งฟ้องศาลแขวงดุสิต เพื่อดำเนินคดีในข้อหา “เป็นมัคคุเทศก์ ยินยอมให้ผู้อื่นทำหน้าที่มัคคุเทศก์แทนตน” ตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ มาตรา60 โดยศาลได้พิจารณาคำฟ้องแล้วพิเคราะห์ว่า ผู้ถูกฟ้องกระทำความผิดจริงตามฟ้อง จึงได้พิพากษาลงโทษ ปรับเป็นเงิน จำนวน 5,000 บาท เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2562
โดยนายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย ระบุว่า ในคดีนี้ทางสมาคมฯ จะได้พิจารณาดำเนินการต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดบรรทัดฐานเป็นรูปธรรมตามกฎหมาย ซึ่งทางสมาคมฯ จะยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ให้พิจารณาดำเนินการภาคทัณฑ์มัคคุเทศก์คนดังกล่าวมิให้ดำเนินการดังกล่าวอีก ซึ่งจะมีผลต่อการพิจารณาลงโทษในระดับขั้นต่อไป คือพักใช้ และเพิกถอนใบอนุญาตต่อไป เพื่อเป็นไปตามกฎหมายที่จะมิให้มัคคุเทศก์ไปสนับสนุนให้บุคคลต่างด้าวเข้ามาทำหน้าที่มัคคุเทศก์แย่งอาชีพคนไทย ซึ่งเป็นอาชีพที่สงวนไว้ให้คนไทยเท่านั้น อีกทั้งยังมีการกระทำความผิดในลักษณะที่ทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศชาติอีกด้วย พร้อมกันนี้ ทางสมาคมฯ จะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และติดตามผลการดำเนินคดีกับขบวนการสนับสนุนไกด์เถื่อนต่างชาติอย่างถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย
นอกจากนี้ ในการประชุมของคณะกรรมการในวันนี้ (20 ม.ค. 63) ยังมีวาระเรื่องพิจารณาความคืบหน้าโครงการของคณะทำงานวิทยากรและมัคคุเทศก์ต้นแบบ เพื่อให้มัคคุเทศก์จบใหม่ หรือยังไม่มีประสบการณ์ได้เรียนรู้ทักษะการปฏิบัติงานจริง เพื่อเตรียมความพร้อมในอาชีพมัคคุเทศก์แต่ละภาษาโดยเฉพาะ ซึ่งได้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมทั้งตั้งคณะทำงานวิทยากรและมัคคุเทศก์ต้นแบบที่ร่วมโครงการกว่า 50 คน ในการฝึกปฏิบัติงานมัคคุเทศก์ใหม่สู่ความเป็นมืออาชีพ ให้มีความเข้าใจในแนวทางที่จะมีการฝึกอบรมทักษะการปฏิบัติงานเสมือนจริงให้กับมัคคุเทศก์ดังกล่าว โดยมัคคุเทศก์อาวุโสมืออาชีพ เพื่อให้มีโอกาสได้งานทำในอาชีพอย่างแท้จริง
สำหรับในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากที่กรมการท่องเที่ยว เคยออกระเบียบใหม่ให้ผู้ที่ผ่านการอบรมครบตามหลักสูตรกับสถาบันการศึกษาใดๆ แล้วนั้น จะไม่ได้รับบัตรอนุญาตประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ แต่จะต้องผ่านการทดสอบการทดสอบขั้นสุดท้ายกับกรมการท่องเที่ยว รวมทั้งจะต้องผ่านการฝึกงานกับบริษัททัวร์อีก 60 ชั่วโมง แต่เนื่องจากเกิดปัญหาในเรื่องของการฝึกงาน จึงได้ออกระเบียบใหม่ ให้ยกเลิกการฝึกปฏิบัติ 60 ชั่วโมงไปก่อน ให้คงไว้แต่การทดสอบขั้นสุดท้ายกับกรมการท่องเที่ยว ดังนั้น ทางสมาคมฯ ได้เล็งเห็นว่า การฝึกปฏิบัติงานเป็นโครงการที่ดี แต่เพราะใช้แนวทางปฏิบัติไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง จึงทำให้แนวทางที่จะให้ฝึกปฏิบัติงานกับบริษัททัวร์ตามสถานการณ์จริง จึงไม่สามารถดำเนินการได้ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ควรจะดำเนินการต่อไปในลักษณะการอบรมตามความสมัครใจ จึงได้จัดทำโครงการดังกล่าวขึ้น
ทั้งนี้ ในการจัดทำโครงการอบรม “ฝึกปฏิบัติงานมัคคุเทศก์ใหม่หรือผู้ที่ต้องการเสริมประสบการณ์สู่ความเป็นมืออาชีพ” คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า ซึ่งมติในที่ประชุมได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ดำเนินการตามโครงการต่อไป